เมนู

บทว่า อปฺปํ วา ยทิวา พหุํ ความว่า ก็กรรมนั้นชื่อว่าน้อย
เพราะวัตถุ เจตนา ประโยค และกิเลสเป็นต้น มีกำลังน้อยก็ตาม ชื่อว่ามาก
เพราะวัตถุ เจตนา ประโยค และกิเลสเป็นต้นเหล่านั้นมีกำลัง และเพราะ
ประพฤติเนือง ๆ ก็ตาม.
บทว่า สพฺพเมตํ ปริกฺขีณํ ความว่า ก็กรรมนี้ทั้งหมดนั่นแล ชื่อว่า
ถึงความสิ้นไปรอบ เพราะมรรคอันเลิศ อันกระทำให้กรรมหมดสิ้นไป เรา
บรรลุแล้ว อธิบายว่า เพราะละกิเลสวัฏได้ กรรมวัฏ ย่อมชื่อว่า เป็นอันเรา
ละได้แล้วด้วย เพราะวิบากวัฏจะเกิดขึ้นไม่ได้. ด้วยเหตุนั้น พระเถระจึง
กล่าวว่า บัดนี้การเกิดในภพใหม่ไม่มี ดังนี้. อธิบายว่า การเกิดในภพใหม่
ไม่มีแก่เราอีกต่อไป. ปาฐะว่า สพฺพเมตํ ดังนี้ก็มี. แยกบทออกเป็น
สพฺพมฺปิ เอตํ.
จบอรรถกถาอุคคเถรคาถา
จบวรรควรรณนาที่ 8
ในอรรถกถาเถรคาถา ชื่อว่า ปรมัตถทีปนี

ในวรรคนี้รวมพระเถระ 10 รูป คือ


1. พระวัจฉปาลเถระ 2. พระอาตุมเถระ 3. พระมาณวเถระ
4. พระสุยามนเถระ 5. พระสุสารทเถระ 6. พระปิยัญชหเถระ 7.
พระหัตถาโรหบุตรเถระ 8. พระเมณฑสิรเถระ 9. พระรักขิตเถระ 10.
พระอุคคเถระ และอรรถกถา.

เถรคาถา เอกนิบาต วรรคที่ 9


1. สมิติคุตตเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระสมิติคุตตเถระ


[218] ได้ยินว่า พระสมิติคุตตเถระไค้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
บาปกรรมใดที่เราได้กระทำไว้แล้ว ในชาติอื่น ๆ
ในกาลก่อน เราจึงได้เสวยผลของบาปกรรมนั้น ใน
อัตภาพนี้เอง เรื่องบาปกรรมอื่นจักไม่มีอีกต่อไป.

วรรควรรณนาที่ 9


อรรถกถาสมิติคุตตเถรคาถา


คาถาของท่านพระสมิติคุตตเถระ เริ่มต้นว่า ยํ มยา ปกตํ ปาปํ.
เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร ?
แม้พระเถระนั้น ก็มีอธิการอันกระทำไว้แล้วในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
สั่งสมบุญไว้ในภพนั้น ๆ เป็นอันมาก บังเกิดในเรือนแห่งตระกูล ในกาล
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า วิปัสสี ถึงความเป็นผู้รู้แล้ว พบ
พระผู้มีพระภาคเจ้า มีจิตเลื่อมใสแล้ว ได้ทำการบูชาด้วยดอกมะลิ.
ด้วยบุญกรรมนั้น เขาจะเกิดในภพใด ๆ ก็ได้ตั้งอยู่ในฐานะ ที่มี
กุลสมบัติ รูปสมบัติ และบริวารสมบัติ เหนือสัตว์เหล่าอื่นในภพนั้น ๆ. ก็